เรื่องย่อ : Cleaner (2025) ไต่ระทึกตึกนรก ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี NungHD หนังเต็มเรื่อง พากย์ไทย ซับไทย ดูหนังใหม่ 2024
โจแอนนา “โจอี้” ล็อค และไมเคิล พี่ชายของเธอเติบโตมาใน ครอบครัว ที่ลอนดอนซึ่งมีพ่อที่ชอบทำร้ายร่างกายซึ่งทำให้โจอี้ต้องปีนผาเพื่อหนีความรุนแรงในครอบครัว ยี่สิบปีต่อมา ในฐานะผู้ใหญ่และอดีตทหารที่ลาออกหลังจากทำร้ายเพื่อนร่วมหน่วยที่เกลียดชังผู้หญิง โจอี้ดูแลไมเคิล Cleaner ซึ่งเป็นออทิสติกและรณรงค์ออนไลน์เพื่อต่อต้านการทุจริตที่บ้านพักคนชรา วันหนึ่ง เธอถูกบังคับให้พาเขาไปที่ที่ทำงานของเธอที่One Canada Square , Canary Wharfซึ่งเธอทำงานเป็นคนทำความ สะอาดกระจก ขณะที่จอยกำลังทำความสะอาดหน้าต่างตึกสูงร่วมกับโนอาห์ เพื่อนร่วมงานของเธอ ไมเคิลก็แอบหนีไปโดยไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อเข้าร่วมกับเธอ ท่ามกลางงานเลี้ยงผู้ถือหุ้นที่จัดขึ้นโดยบริษัทพลังงานอักนิอันในอาคาร กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมที่ตั้งชื่อตัวเองว่า Earth Revolution ซึ่งโนอาห์เป็นสมาชิกอยู่
ได้ใช้แก๊สหุงต้มในถังแก๊สเพื่อเข้ายึดกิจการอย่างรุนแรง และจับตัวผู้บริหารของอักนิอัน รวมถึงเจฟฟรีย์ เจอรัลด์ มิลตัน เจ้าของบริษัท และแขกเป็นตัวประกัน มาร์คัส เบลค หัวหน้ากลุ่มตั้งใจที่จะเปิดโปงความหน้าไหว้หลังหลอกของอักนิอัน เนื่องจากบริษัทกำลังส่งเสริมการแสร้งทำเป็นใช้ทรัพยากรธรรมชาติและมลพิษ ซึ่งขัดกับเป้าหมายที่ประกาศต่อสาธารณะในการเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาดกว่า และยังฆ่าสมาชิกกลุ่มที่ถูกจับกุมก่อนที่พวกเขาจะให้การเป็นพยานในศาล เมื่อเจฟฟรีย์พยายามเจรจากับพวกเขา โนอาห์ก็ฆ่าเขาทั้งๆ ที่เบลคสั่ง และเจอรัลด์ก็วิ่งหนีไปซ่อนตัว หลังจากผู้หลบหนีถูกต้อนจนมุม โนอาห์ที่ไม่เห็นด้วยกับอุดมคติของเบลค จึงฆ่าเบลคและพวกที่ภักดีต่อเขา แย่งชิงความเป็นผู้นำของกลุ่ม และวางแผนวางระเบิดตัวประกัน ที่มีสวิตช์สำหรับ คนตายซึ่งซิงโครไนซ์กับจังหวะการเต้นของหัวใจโนอาห์
⭐ 8/10
ภาพยนตร์ Cleaner (2025) หรือในชื่อไทยว่า ไต่ระทึกตึกนรก เป็นผลงานแอ็กชันระทึกขวัญจากผู้กำกับมากฝีมือ มาร์ติน แคมป์เบลล์ (Martin Campbell) ผู้เคยฝากผลงานระดับตำนานอย่าง Casino Royale มาแล้ว ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับเรื่องราวที่ผสมผสานความตื่นเต้นแบบไม่หยุดพักเข้ากับประเด็นร่วมสมัย โดยมีนักแสดงนำอย่าง เดซี ริดลีย์ (Daisy Ridley) มารับบทโจอี้ ล็อค อดีตทหารที่ผันตัวมาเป็นพนักงานเช็ดกระจกตึกระฟ้า และต้องเผชิญหน้ากับภารกิจสุดท้าทายที่ไม่คาดฝัน เนื้อเรื่องย่อ Cleaner เรื่องราวเกิดขึ้นในลอนดอนยุคปัจจุบัน เมื่อกลุ่มนักเคลื่อนไหวหัวรุนแรงบุกยึดงานกาล่าประจำปีของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ และจับตัวประกันกว่า 300 คน เพื่อเปิดโปงความฉ้อฉลของบริษัท ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม จนกระทั่งหนึ่งในสมาชิกกลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่งตัดสินใจยกระดับสถานการณ์ด้วยการวางแผนสังหารทุกคนในอาคาร เพื่อส่ง “ข้อความ” ถึงโลกภายนอก ในขณะเดียวกัน โจอี้ (เดซี ริดลีย์) ซึ่งกำลังทำงานเช็ดกระจกอยู่ที่ชั้น 50 ด้านนอกตึก กลายเป็นความหวังเดียวของตัวประกัน รวมถึงน้องชายของเธอที่ติดอยู่ข้างใน ด้วยทักษะการต่อสู้จากอดีตทหารและความกล้าบ้าบิ่น โจอี้ต้องไต่ตึกระฟ้าสูงนับพันฟุตเพื่อเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ก่อการร้าย และหยุดยั้งหายนะครั้งนี้ให้ได้
จุดเด่นของภาพยนตร์
1. แอ็กชันสุดระทึกและฉากไต่ตึกที่ลุ้นจนแทบหยุดหายใจ Cleaner นำเสนอฉากแอ็กชันที่ชวนให้หัวใจเต้นรัว โดยเฉพาะฉากที่โจอี้ต้องโรยตัวและไต่ตึกสูงนับร้อยชั้น ด้วยมุมกล้องที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังห้อยโหนอยู่ด้วยตัวเอง ถ้าคุณกลัวความสูง หนังเรื่องนี้อาจทำให้คุณหวิวได้เหมือนที่หลายคนบอก! การออกแบบฉากต่อสู้ก็ทำได้สมจริงและดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ระยะประชิดหรือการใช้สภาพแวดล้อมในตึกเป็นอาวุธ ทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกมาอย่างลงตัว
2. การแสดงของเดซี ริดลีย์ เดซี ริดลีย์พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าเธอไม่ใช่แค่นักแสดงที่มีเสน่ห์ แต่ยังเป็นนางเอกแอ็กชันที่แข็งแกร่งได้อย่างน่าทึ่ง บทโจอี้ ล็อค ที่ทั้งบู๊และดราม่า ถูกเธอถ่ายทอดออกมาด้วยความน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าที่แสดงถึงความกดดัน ความมุ่งมั่น หรือความเจ็บปวดเมื่อต้องปกป้องคนที่รัก การแสดงของเธอช่วยยกระดับหนังให้มีมิติมากขึ้น
3. ประเด็นสิ่งแวดล้อมที่เข้ากับยุคสมัย ถึงแม้จะเป็นหนังแอ็กชัน Cleaner ก็สอดแทรกประเด็นสิ่งแวดล้อมและ หนังพูดถึงความขัดแย้งระหว่างนักเคลื่อนไหวที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลก กับวิธีการที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของปัญหาในโลกจริง แม้จะไม่ได้เจาะลึกจนกลายเป็นสารคดี แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชมฉุกคิด จุดที่อาจทำให้ลังเล ถึงแม้ Cleaner จะมีจุดเด่นมากมาย แต่ก็มีบางส่วนที่อาจทำให้รู้สึกขัดใจ เช่น การเดินเรื่องในช่วงแรกที่ค่อนข้างช้า เพื่อปูพื้นตัวละครและสถานการณ์ ซึ่งอาจไม่ถูกใจคนที่คาดหวังแอ็กชันแบบ non-stop ตั้งแต่นาทีแรก นอกจากนี้ ช่วงท้ายของหนังมีการเร่งจังหวะและสรุปเรื่องราวแบบรวบรัดไปหน่อย ทำให้บางปมดูไม่เคลียร์หรือขาดน้ำหนักไปบ้าง ความรู้สึกหลังดู Cleaner เป็นหนังแอ็กชันที่ทั้งสนุกและลุ้นระทึก เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบหนังสไตล์ Die Hard แต่เพิ่มกลิ่นอายความทันสมัยเข้าไป ด้วยการกำกับที่ช่ำชองของมาร์ติน แคมป์เบลล์ และการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเดซี ริดลีย์ รวมถึงนักแสดงสมทบอย่างไคลฟ์ โอเว่น (Clive Owen) และทาซ สกายลาร์ (Taz Skylar) ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการดูในโรงภาพยนตร์ คะแนน: 8/10 ถ้าคุณกำลังมองหาหนังแอ็กชันที่ทั้งมันส์และมีอะไรให้คิดจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
⭐ 5/10
ฉันเป็นแฟนตัวยงของ Daisey และ Clive Owen กับผู้กำกับ Martin Campbell (Casino Royal) แต่บทหนังลอกเลียนแบบห่วยๆ เรื่องนี้ไม่มีการพัฒนาตัวละครหรือโครงเรื่องเลย และกลับกลายเป็นหนังฮอลลีไวร์อีกเรื่องหนึ่งที่เปลี่ยนบรูซ วิลลิสเป็นผู้หญิงถือปืน Daisey สมควรได้รับบทหนังที่ดีกว่านี้แน่นอน เพราะบทหนังเกรดบีเรื่องนี้เป็นหนังที่ตัดต่อโดยตรงและไม่มีสาระอะไรเลย และนักแสดงก็ทำให้ฮอลลีวูดดูแย่เพื่อให้ได้เงินก้อนโต บางทีคนในชุดสูทอาจจะเรียนรู้ที่จะสร้างบทหนังต้นฉบับแทนที่จะลอกเลียนแบบมากขึ้น ต่อไปจะเป็นแรมบา นักรบหญิงของสตอลโลน อย่างน้อย Clive Owen ก็ฉลาดพอที่จะรับเงินเดือนอย่างรวดเร็วและหายตัวไปตั้งแต่ต้นเรื่อง ดังนั้นก็คาดหวังไว้ต่ำๆ และหัวเราะเยาะพล็อตเรื่องที่ไร้สาระ แต่ฉากแอ็กชั่นก็แน่นหนาดีถ้าคุณหยุดหัวเราะกับความไร้สาระของเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับตัวละครหลักที่มีมิติเดียวและตัวร้ายที่สร้างความหวาดกลัวต่อสิ่งแวดล้อมจากกล่องแครกเกอร์ บางทีอาจเป็นบทหนังที่สร้างโดย AI ข่าวดีก็คือ Michael Stratham (ซีรีส์ Mechanic) หรือ Charlize Theron (ซีรีส์ Atomic) ไม่มีอะไรต้องกังวลใจจากการแข่งขันจากภาพยนตร์แย่ๆ เรื่องนี้
⭐ 5 /10
ความโลภขององค์กร การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม การก่อการร้าย และอดีตทหารสาวที่ทำความสะอาดกระจกที่กำจัดคนร้ายที่ยึดอาคารของเธอ ขอพูดสั้นๆ นะ หนังเรื่องนี้ไม่ได้สนุกหรือให้ความพึงพอใจเป็นพิเศษ เนื้อเรื่องดูมีแนวโน้มดีแต่เผยให้เห็นจุดอ่อนเร็วเกินไปและหมดแรงอย่างรวดเร็ว แอ็คชั่นก็ใช้ได้ ตัวร้ายก็ดูน่าเบื่อ ตัวละคร แรงจูงใจ บทสนทนา และการแก้ปัญหาล้วนทั่วไปเกินไปจนไม่สามารถสร้างความประทับใจได้ยาวนาน นอกจากนั้น จังหวะยังยืดเยื้อในบางช่วง ตอนจบก็ทำได้ไม่ดี และอารมณ์ร่วมระหว่างพี่น้องก็ไม่ค่อยลงตัว หนังเรื่องนี้พยายามจะพูดถึงการทำลายสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบขององค์กรหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ทำแบบน่าเบื่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ Die Hard นี่ไม่ใช่ ดังนั้นการเปรียบเทียบจึงไม่สำคัญ ในเรื่องนี้ ตัวร้ายถือไพ่เหนือกว่า (พวกเขาควบคุมตำรวจ อาคาร และตัวประกัน) แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางเอกกลับกลายเป็นปัญหาที่อธิบายไม่ได้สำหรับพวกเขา มีปัญหากับบท แต่การดำเนินเรื่องก็มีปัญหาเช่นกัน เนื่องจากมิส ริดลีย์มีความสามารถในบทบาทนี้ แต่ทัศนคติที่ไม่ใส่ใจของเธอในขณะที่แสดง “แอ็กชั่น” กลับดูสะดุดหูและบั่นทอนความรู้สึกถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจริง
ฮอลลีวูดยุคใหม่กลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มีสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่งเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เนื่องจากปัญหาทางสติปัญญาในปัจจุบันของเขา อย่างน้อยบรูซ วิลลิสก็คงไม่รู้เรื่องนี้ ไคลฟ์ โอเว่น? ฉันหวังจริงๆ ว่าเขาจะประสบปัญหาทางการเงิน เพราะนั่นคงอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงตกลงร่วมแสดงในหนังเลียนแบบ Die Hard 1 ที่น่าละอายเรื่องนี้ ทำไมถึงมีนักแสดงที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น แต่กลับถูกไล่ออกอย่างรวดเร็ว? เป็นเพราะว่าผู้สร้างและนักเขียนตระหนักถึงช่องว่างความสามารถที่กว้างไกลระหว่างไคลฟ์และเดซี่ ริดลีย์หรือเปล่า และพวกเขาตื่นตระหนกจนคิดว่าเขาจะแสดงเธอในทุกฉาก หายไปไหนหมด! ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของความแตกต่างระหว่างฮอลลีวูดในปัจจุบันกับอดีต มาสร้างภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมกันเถอะ เปลี่ยนเพศของฮีโร่ตัวจริงให้กลายเป็นหัวหน้าหญิง เติมฉากแอ็กชั่นที่เหลือเชื่อ และเปลี่ยนผู้ก่อการร้ายให้กลายเป็นนักรบรักษ์โลกกันเถอะ
The King (2017) อัยการโคตรอหังการ
This Is The End (2013) วันเนี๊ย…จบป่ะ
Samson And Delilah (1949) แซมซั่น