ดูหนังใหม่ 2024 หนังออนไลน์ ดูหนังฟรี HD หนังเต็มเรื่อง Netflix

ดูหนัง Chronicle (2012) บันทึกลับเห​นือโลก

เรื่องย่อ

ในซีแอตเทิลแอนดรูว์ เดทเมอร์ วัยรุ่นถูกกลั่นแกล้งที่โรงเรียนและถูกทำร้ายโดยริชาร์ด พ่อที่ติดเหล้าของเขา ในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับการต่อสู้กับโรคมะเร็ง ของคาเรน แม่ของเขา ครอบครัวของเขายังมีหนี้ค่ารักษาพยาบาล และต้องดิ้นรนหาเงินจ่ายค่ารักษาของคาเรน เพื่อนเพียงคนเดียวของเขาคือแมตต์ แกเร็ตตี้ ลูกพี่ลูกน้องของเขา แอนดรูว์ได้รับแรงบันดาลใจจากเคซีย์ แฟนสาวที่คบๆ เลิกๆ กันของแมตต์ จึงซื้อกล้องเพื่อสร้างไดอารี่วิดีโอเกี่ยวกับชีวิตของเขา แมตต์เชิญแอนดรูว์ไปงานปาร์ตี้เพื่อช่วยเขาสังสรรค์ แต่เขาออกไปหลังจากการถ่ายทำของเขาทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกับผู้เข้าร่วมคนอื่น สตีฟ มอนต์โกเมอรี นักเรียนชื่อดังเข้ามาหาแอนดรูว์และขอให้เขาบันทึกภาพหลุมขนาดใหญ่ที่เขาและแมตต์ค้นพบในป่า  Chronicle  ทั้งสามเดินลงไปในหลุมและพบวัตถุผลึกเรืองแสง วัตถุดังกล่าวเริ่มมีปฏิกิริยารุนแรงอย่างกะทันหัน และกล้องก็ลัดวงจร ไม่กี่วันต่อมา แอนดรูว์ แมตต์ และสตีฟได้พัฒนา ทักษะ พลังจิตแม้ว่าพวกเขาจะมีอาการเลือดกำเดาไหลเมื่อออกแรงมากเกินไปก็ตาม เมื่อไม่สามารถกลับไปที่หลุมนั้นได้หลังจากที่ตำรวจปิดหลุมไว้ พวกเขาจึงเริ่มใช้ทักษะนี้เพื่อเล่นตลกกับคนอื่น แต่กลับกลายเป็นเรื่องเกินขอบเขต เมื่อแอนดรูว์ผลักผู้ขับขี่รถยนต์ที่หยาบคายออกจากถนนลงไปในทะเลสาบใกล้เคียง สตีฟสามารถช่วยชายคนนั้นจากการจมน้ำได้ แต่แมตต์ยืนกรานว่าพวกเขาไม่ควรใช้พลังนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งมีชีวิต

หลังจากสตีฟค้นพบว่าพวกเขาสามารถบินได้ พวกเขาก็ตกลงที่จะบินรอบโลกด้วยกันหลังจากเรียนจบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอนดรูว์ที่ปรารถนาที่จะไปเยือนทิเบตสตีฟโน้มน้าวแอนดรูว์ให้ใช้พลังของเขาในการแสดงมายากลในงานแสดงความสามารถของโรงเรียน ซึ่งทำให้เพื่อนๆ ประทับใจ แอนดรูว์ชื่นชอบความนิยมที่เพิ่งได้รับในงานปาร์ตี้ที่บ้าน แต่คืนนั้นจบลงด้วยความหายนะเมื่อเขาเมาแล้วอาเจียนใส่เพื่อนร่วมชั้นที่เขาตั้งใจจะมีเซ็กส์ด้วย และสตีฟก็ทำให้เขาขุ่นเคืองโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะที่พยายามสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย ริชาร์ดเผชิญหน้ากับแอนดรูว์หลังจากพบกล้องของเขาและเห็นภาพวิดีโอ โดยเชื่อว่าแอนดรูว์ใช้เงินทั้งหมดไปกับสิ่งที่เขาและเพื่อนอีกสองคนทำ ทั้งๆ ที่ควรจะเอาไปซื้อโรงเรียนและยาของคาเรน ในการโต้เถียงที่เกิดขึ้น ริชาร์ดโจมตีแอนดรูว์ ซึ่งตอบโต้อย่างรุนแรงโดยใช้พลังของเขาต่อกรกับเขา ก่อนจะหนีออกจากบ้าน แอนดรูว์บินออกไปกลางพายุฝนฟ้าคะนอง และสตีฟก็ตามไปปลอบใจเขาหลังจากเลือดกำเดาไหลเพราะ ได้ยินแอนดรูว์ตอบโต้ริชาร์ด ด้วยพลังจิตแอนดรูว์เริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสตีฟไม่ยอมไป จึงใช้พลังของเขาฟาดสตีฟจนเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อแมตต์ซักถามที่งานศพของสตีฟ แอนดรูว์ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ต่อมาได้ขอการให้อภัยเป็นการส่วนตัวที่หลุมศพของสตีฟ

ผู้กำกับ

• Josh Trank

บริษัท ค่ายหนัง

• 20th Century Fox
• Davis Entertainment Company
• Dune Entertainment

นักแสดง

• Dane DeHaan
• Alex Russell
• Michael B. Jordan
• Michael Kelly
• Ashley Hinshaw

โปสเตอร์หนัง

รีวิว

Super Review Channel

หนังใช้วิธีการนำเสนอผ่านกล้อง แฮนด์ดี้แคม ของวัยรุ่นคนหนึ่งและกล้องของบุคคลอื่น กล้องตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนภาพก็จึงออกมาแบบดิบ ๆ แบบมือกล้องสมัครเล่นทั่วไปถ่าย เทคนิคนี้ทำให้คนดูอาจรู้สึกปวดหัวโดยเฉพาะครึ่งแรก แต่เข้าครึ่งหลัง วัยรุ่นคนหนึ่งที่ได้พลังในการควบคุมวัตถุก็สามารถใช้พลังจิตควบคุมกล้องโดยไม่ต้องใช้มือถือ ภาพจึงนึ่งขึ้น เทคนิคการนำเสนอภาพจากกล้องแฮนด์ดี้แคมแบบนี้เราได้เห็นมาแล้วในหลายเรื่องที่ผู้เขียนขี้เกียจจะยกตัวอย่าง ในจังหวะหนังเขาจะบิ้วอารมณ์เราเขาก็ทำได้ดีมาก การสู้กันนะมันก็สนุกไม่ต่างกับหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่เลย ประมาณว่าบ้านเมืองพังยับ ฉากแอ็คชั่นในช่วงท้ายนั้นถือว่าสนุกมาก แต่ละคนใช้พลังสู้กันมันหยด ไอ้คนบ้าพลังก็บ้าไป Chronicle  ไอ้เพื่อนที่จะเตือนนั้นพอเดินไม่ได้ก็ใช้พลังเตือนไป ปล่อยพลังใส่กันแทบจะสนุกกว่าหนังซุปเปอร์ฮีโร่บางเรื่องในช่วงเวลาปัจจุบันเลย

หนังสะท้อนภาพสังคมอเมริกันโดยเฉพาะช่วงชีวิตของวัยรุ่นที่ไม่อยู่นิ่ง ชอบค้นหาตัวตน ตั้งคำถามกับทุกอย่าง ชอบแสดงออกและชอบที่จะเป็นจุดสนใจ และก็ชอบให้ระบบสุริยะจักรวาลหมุนรอบตัวเอง ทั้งยังสะท้อนสภาพครอบครัวที่พ่อติดสุรา แม่ป่วยเป็นโรคร้าย ที่ใช้เงินรักษาจำนวนมากจนครอบครัวประสบปัญหาด้านการเงิน ลูกจึงกลายเป็นเด็กมีปัญหาไป ซ้ำร้ายลูกบางคนยังมีลักษณะเป็นคนอ่อนแอ ถูกเพื่อนล้อรังแกตลอดเวลา หนังแนวนี้อเมริกันชอบทำนักแล จนรู้สึกว่า วัยรุ่ยในสังคมอเมริกันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ ไอ้เรื่องประเด็นการใช้พลังแบบไม่มีขีดจำกัด ไม่มีสามัญสำนึกในการควบคุม เขาก็ต้องการนำเสนอออกมาอย่างชัดเจน จนน่ารำคาญไปเลย ก็ไม่รู้ว่าจะบ้าพลังอะไรขนาดนั้น

ก็อย่างว่าแหละ เรื่องของอำนาจไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าจะเป็นอำนาจเงิน หรืออำนาจกำลัง อำนาจบารมีพ่อ บารมีแม่ ใคร ๆ ก็อยากมี ซึ่งในบรรดาหนังฮีโร่สัญชาติอเมริกัน ตัวเอกมักได้พลังมาอย่างไม่ตั้งใจ แต่แมบทุกเรื่องก็จะนำอำนาจนั้นไปใช้ในทางที่ดี ช่วยเหลือคนเสมอ แม้ตัวเองจะเดือดร้อนก็ยังเอาตัวเข้าช่วย จนแทบจะเป็นเทวดา ก็อย่างวลีอมตะในหนังสไปเดอร์แมนว่า “อำนาจที่ยิ่งใหญ่ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง” ซึ่งมันตรงกับข้ามกับเรื่องนี้ ที่วัยรุ่นสามคนใช้อำนาจที่ได้มาแกล้งคนและหาความสุขกับอำนาจนั้น จนท้ายที่สุดใช้อำนาจโดยไม่สนใจผู้อื่นหรือผลลบที่จะเกิดขึ้นตามมาเลย ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วมันก็จริงนั่นแหละ คนเรามันมีอำนาจก็ต้องใช้อำนาจสนองตัณหาตัวเองทั้งนั้น คนจนเวลามีเงินมากๆก็เอาเงินมาตอบสนองตันหาของตัวเอง หรือคนอ่อนแอพอมีอำนาจก็ใช้อำนาจนั้นในการลบปมด้อยของตัวเอง

อย่าลืมสิว่าซุปเปอร์ฮีโร่มันก็มีแค่ในหนังสือการ์ตูนกับในหนังเท่านั้นนั่นแหละ ยิ่งคนไม่เคยมีพลังอำนาจมาก่อนเลยด้วยนะ แล้วพอมามีก็จัดเต็มไปเลยสิ การสร้างพล๊อตเรื่องแบบผ่าเหล่านี้เองอาจสะท้อนภาพความรู้สึกคนผู้คนที่เป็นสามัญชนได้ดีที่สุด เพราะพลัง อำนาจที่ได้มานั้นต้องตอบสนองตนเองก่อน ให้ตนเองมีความสุขก่อน เรื่องการใช้อำนาจไปช่วยเหลือคนนั้นมันเป็นเรื่องเพ้อฝันเกินไป โลกแห่งความเป็นจริงกับโลกภาพยนตร์มันสวนทาง แล้ววัตถุประสงค์ของการสร้างนวนิยายสร้างการ์ตูนหรือสร้างภาพยนตร์นั้น ก็เพื่อจะต้องการให้คนที่เสพได้หลุดออกจากโลกแห่งความเป็นจริง และนำเอาอนุภาคบางอย่างนั้นมาลบปมของตัวเองนั้นเอง

FFman

8/10

สนุกกับการล้อเลียนไหม? สนุกกับการดูคนโดนล้อเลียนไหม? นี่คือภาพยนตร์ของคุณ Chronicle เข้าฉายในโรงภาพยนตร์โดยถูกประเมินค่าต่ำเกินไป แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ก็ได้ปูทางใหม่ให้กับแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่ซ้ำซากจำเจ Chronicle นำคำถามหลักเกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหมดมาเล่น—พลังของเรามาจากไหน? เราควรใช้พลังของเราอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด คำถามเหล่านั้นก็ไม่เกี่ยวข้อง ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่สามคน แต่เป็นเกี่ยวกับเด็กผู้ชายวัยรุ่นสามคนที่บังเอิญมีพลังพิเศษ

ภาพยนตร์เรื่องนี้พิเศษมาก นักแสดงหลักทั้งสามคนไม่มีใครรู้จัก เมื่อภาพยนตร์เริ่มต้น พวกเขาทั้งหมดบอกกับฉันว่าพวกเขาเป็นเด็กมัธยมปลายที่มีภาพลักษณ์แบบแผน—เด็กยอดนิยม เด็กนอกคอก และเด็กติดกัญชา เมื่อภาพยนตร์ดำเนินไป ภาพลักษณ์แบบแผนเหล่านั้นก็ไร้ค่า นักแสดงเหล่านี้สามารถรับมือกับความท้าทายนี้ได้ ตัวละครหลักแต่ละคนเปลี่ยนแปลงไปมากจนคุณจำพวกเขาไม่ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อผสมผสานกับเนื้อเรื่องที่ไม่ซ้ำใครแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแกนหลักที่แข็งแกร่งมาก

หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาที่น่าดูอยู่พอสมควรเพราะมีความสมจริง การกลั่นแกล้งก็โหดร้าย สิ่งที่ตัวละครหลักทำด้วยพลังของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่ฉันจะทำ นั่นคือจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้มีความสมจริง ไม่ได้ปิดบังชีวิตหรือพยายามทำให้เรียบง่ายเกินไป หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาที่ตรงไปตรงมา ทำให้ผู้ชมหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในช่วงหนึ่งและสะดุ้งในช่วงถัดไป ปัญหาเหล่านี้มีเพียงเล็กน้อยแต่ยังคงมีอยู่ จุดไคลแม็กซ์อันน่าเหลือเชื่อตามมาด้วยบทสรุปที่น่าเบื่อ ตัวละครที่เป็นพ่อนั้นค่อนข้างเกินจริง ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะบทหรือการแสดงที่ทำให้เป็นเช่นนั้น ข้อเท็จจริงสองประการนี้จะไม่ทำให้คุณเลิกดูหนังเรื่องนี้ มันน่าเสียดายที่หนังดีๆ แบบนี้จบลงแบบไม่ค่อยดี นังเรื่องนี้คุ้มค่าแก่การดู บางคนอาจมีปัญหาในการดูในโรงภาพยนตร์เพราะเป็นการถ่ายทำจากมุมมองบุคคลที่หนึ่งและบางครั้งก็ดูกระตุกๆ หากคุณไม่รังเกียจ ฉันขอแนะนำให้ไปดูในโรงภาพยนตร์ ฉันดูหนังเรื่องนี้กับผู้ชมจำนวนมาก ซึ่งดูเหมือนว่าจะทำให้ประสบการณ์ดีขึ้น สำหรับคนทั่วไปแล้ว เรื่องนี้อาจเป็นหนังที่สนุกสนาน สำหรับแฟนซูเปอร์ฮีโร่ เรื่องนี้อาจเป็นหนังคัลท์คลาสสิกก็ได้

Colyn1006

8/10

Chronicle เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วย “ภาพจากกล้อง” ซึ่งคล้ายกับ Cloverfield, The Blair Witch Project และซีรีส์ Paranormal Activity ที่โด่งดัง ภาพยนตร์ประเภทนี้ (โดยเฉพาะ Paranormal Activity) มักจะแย่ คาดเดาได้ และไม่มีอะไรนอกจากการทำเงินแบบถูกๆ แต่โชคดีที่ Chronicle แตกต่างออกไป แอนดรูว์ (เดน เดอฮาน) เป็นวัยรุ่นมัธยมปลายที่ตัดสินใจถ่ายทำวิดีโอเกี่ยวกับชีวิตของเขา จากวิดีโอเหล่านี้ เราพบว่าแอนดรูว์เป็นคนนอกคอกโดยสิ้นเชิงและมีชีวิตที่ไม่ง่ายเลย พ่อของแอนดรูว์เป็นคนขี้เมาที่ชอบทำร้ายผู้อื่น แม่ของเขากำลังจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และแมตต์ (อเล็กซ์ รัสเซลล์) ลูกพี่ลูกน้องของเขาแทบจะทนเขาไม่ได้ วันหนึ่ง ขณะที่แมตต์กำลังขับรถไปส่งแอนดรูว์กลับจากโรงเรียน แมตต์ก็เร่งเร้าแอนดรูว์ให้ไปงานปาร์ตี้กับเขา

แมตต์ขอร้องแอนดรูว์ไม่ให้เอากล้องถ่ายรูปมา แอนดรูว์ไม่ฟัง หลังจากโดนคนเมาต่อยหน้า “ภาพ” ก็ตัดมาที่แอนดรูว์กำลังนั่งร้องไห้อยู่หน้างานปาร์ตี้ สตีฟ (ไมเคิล บี. จอร์แดน) เดินไปหาแอนดรูว์และบอกเขาว่าเขาและแมตต์พบบางอย่างที่พวกเขาอยากให้เขาถ่ายทำ สิ่งที่พวกเขาพบคือหลุมขนาดใหญ่ ขณะที่แอนดรูว์กำลังถ่ายทำหลุมนั้น มีเสียงประหลาดดังขึ้นจากด้านใน สตีฟ แมตต์ และแอนดรูว์ต่างก็ปีนลงไปในหลุมเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ สิ่งที่พวกเขาพบคือสักพักต่อมา แอนดรูว์ แมตต์ และสตีฟก็พบว่าพวกเขาพัฒนาพลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุ (นั่นคือตอนที่ความสนุกเริ่มต้นขึ้น) แทนที่จะใช้พลังในการต่อสู้กับอาชญากร พวกเขาทั้งสามคนซึ่งตอนนี้เป็นเพื่อนกัน กลับใช้พลังของตนเพื่อเล่นตลกกับคนอื่น เมื่อพลังของพวกเขาดีขึ้น มุมกล้องก็ดีขึ้นด้วย ในที่สุด แอนดรูว์ก็สามารถยกกล้องให้ลอยขึ้นได้ทุกที่ที่จินตนาการได้ในขณะที่เขากำลังทำอะไรบางอย่าง มันเจ๋งมาก

สิ่งที่ทำให้ฉันทึ่งเกี่ยวกับ Chronicle ก็คือทุกอย่างเขียนออกมาได้ดีมาก บทได้รับการคิดมาอย่างดีและตัวละครหลักทั้งสามก็เช่นกัน ไม่ค่อยได้เห็นสิ่งนี้ในภาพยนตร์เรื่องไหนๆ ยิ่งหายากขึ้นไปอีกเมื่อคุณเห็นสิ่งนี้ในหนังที่ “พบเห็นจากฟุตเทจ” ฉันอยากแนะนำนักเขียนคนใดก็ตามที่วางแผนจะเขียนอะไรเกี่ยวกับวัยรุ่นมัธยมปลายให้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ นี่คือการกระทำของเด็กมัธยมปลายตัวจริง พวกเขาไม่โตเกินไป ไม่โตเกินไป พวกเขาเป็นวัยรุ่น ง่ายๆ นั่นคือเหตุผลหนึ่งที่ฉันชอบตัวละครเหล่านี้ ฉันสามารถเชื่อมโยงกับพวกเขาได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณสามารถเชื่อมโยงกับตัวละครหลักอย่างน้อยหนึ่งในสามตัวได้ สำหรับอีกสองคน คุณอาจรู้จัก/เคยรู้จักใครบางคนที่มีลักษณะบุคลิกภาพคล้ายกัน ไม่เป็นไรหากทั้งสามคนกลายเป็นเพื่อนที่แน่นแฟ้นกัน ชั่วโมงแรกหรือประมาณนั้นถือเป็นภาพยนตร์แนวโบรแมนซ์ที่ยอดเยี่ยม

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

Sausage Party (2016) ปาร์ตี้ไส้กรอก

Gone with the bullets (2014) ใหญ่ท้าใหญ่

City of Ember (2008) กู้วิกฤติมหานครใต้พิภพ

Deep Rising (1998) เลื้อยทะลวง 20,000 โยชน์

The Wandering Earth (2019) ปฏิบัติการฝ่าสุริยะ